ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องชาร์จแบตฯปกติ กับเครื่องชาร์จแบตฯอัติโนมัติ

เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัติโนมัติ หรือ Trickle Charger เป็นชื่อไว้เรียกเครื่องชาร์ตแบตฯที่จะชาร์จในกระแสที่ไม่สูงมาก และสามารถต่อกับรถทิ้งไว้ได้เลย

ปกติรถก็มีระบบไฟชาร์จในตัวอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้เครื่องชาร์จแบตฯด้วย นั่นก็เพราะไดชาร์จรถจะให้กระแสชาร์จไม่เยอะมาก เพราะฉะนั้นแบตฯที่ชาร์จโดยระบบชาร์จรถอย่างเดียวก็จะมีความจุที่ลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้หากแบตเตอรี่มีความจุต่ำมากๆ แค่ไดชาร์จรถจะไม่สามารถชาร์จให้แบตเต็มได้

Trickle Charger ต่างกับที่ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไปยังไง

บนที่ชาร์จแบตฯรถยนต์ทั่วไปเราจะเห็นค่าให้ตั้งหลักๆสองอย่างคือ โวลต์เตจ และกระแส

ในการชาร์จแบตฯรถยนต์ทั่วไปมักใช้ 6V/ 12V/ 24V และให้กระแสได้ตั้งแต่ 1 - 50 แอมป์ บางรุ่นก็มีโหมดจั๊มสตาร์ทด้วยที่ให้กระแสได้ 200amps ซึ่งก็พอเพียงในการหมุนมอเตอร์สตาร์ทรถได้หลายรุ่น

สิ่งที่ทำให้เครื่องชาร์จแบตฯอัติโนมัติแตกต่างจากเครื่องชาร์จปกติตรงที่เครื่องชาร์จแบตฯอัติโนมัติจะมีโหมดให้กระแสแอมป์ต่ำ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 - 3แอมป์ และมีโหมดที่สามารถปรับกระแสชาร์จเองได้ หรือเปิดปิดตัวเองได้ตามความจุของแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า Float mode ทำให้สามารถเสียบชาร์จทิ้งไว้เวลาไม่ใช้งานและให้แบตฯเต็มตลอด

ตัวอย่างโหมดการชาร์จของ Trickle Charger

ทำไมยิ่งชาร์จเร็วไม่ดีกว่าเสมอไป

เหตุผลที่การชาร์จแบตฯช้าๆ ดีกว่าการชาร์จแบบเร็วๆนั้นเนื่องมาจาก ส่วนประกอบทางเคมีของแบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบตฯตะกั่วกรดเก็บพลังงานในรูปของเคมีด้วยแผ่นตะกั่ว และกรดซัลฟิวริก ปฎิกริยาทางเคมีของการชาร์จแบตฯ และคายประจุจะเป็นไปตามภาพด้านล่าง

การปล่อยกระแสเข้าไปชาร์จ จะทำให้เลด(II) ซัลเฟต กลับไปเป็ยตะกั่วเหมือนเดิม และปล่อยซัลเฟตกลับไปในอิเล็กโทรไลต์ และทำให้กรดซัลฟิวริกเข้มข้นขึ้น

การให้กระแสที่สูงขึ้น จะทำให้กระบวนการนี้เร็วขึ้น แต่ก็จะทำให้มีความร้อนสูงขึ้น และอาจทำให้เกิดการ Off-gassing ของอิเล็กโทรไลต์ หรือมีแก๊สเกิดขึ้นเยอะ ในเคสรุนแรง แบตเตอรี่อาจระเบิดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เครื่องชาร์จแบตฯอัติโนมัติจึงปรับกระแสชาร์จให้เหมาะกับสภาพแบตเตอรี่