แผ่นประกบด้านใน และแผ่นประกบด้านนอก ( Inner Side Plate/Outer Side Plate )
มีหน้าที่ยึด Roller Assembly โดยบางโซ่จะมี O-ring/ X-ring ขั้นระหว่างแผ่นประกบด้วย
O-ring/ X-ring
โอริงถูกสร้างขึ้นมาโดยมีหน้าที่หลักคือช่วยกักสารหล่อลื่นภายในสลักลูกกลิ้งเอาไว้ไม่ให้ออกมา ทำให้การหล่อลื่นโซ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้อายุการใช้งานโซ่นานขึ้นด้วย
Roller Assembly
ประกอบไปด้วย สลัก, ปลอกสลัก และ ลูกกลิ้ง โดยลูกกลิ้งจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับสเตอร์อีกทีนึง
การอ่านตัวเลขโซ่ เช่น 428 - 132SL หรือ 520 - 120RL
เลข 5 บ่งบอกระยะห่างกึ่งกลางของสลัก หรือที่เรียกว่าระยะPitch (P)
โซ่ 5xx จะมีสลักห่างกัน 5/8 นิ้ว (5 หุน)
เลข 20 บ่งบอกระยะห่างของแผ่นประกบด้านใน (W)
โซ่ x20 จะมีความห่าง W ที่ 2.0/8 นิ้ว นี่เอง
เลข 120 บ่งบอกจำนวนข้อโซ่
ตัวอักษร SL บ่งบอกชนิดของข้อต่อ โดยมีสองแบบคือ แบบ กิ๊ปล็อค (Spring-SL) และแบบหมุดย้ำ (Rivet-RL) กรณีเขียนว่า DL หรือ Dual Link จะมีทั้งสองแบบ
เทียบกันชัดๆจะเห็นว่า เบอร์ 428 จะมีระยะห่างสลักน้อยกว่าเบอร์อื่น ในขณะที่เบอร์ 530 จะมีระยะระหว่างแผ่นประกบด้านในมากกว่าเบอร์อื่น
แล้วโซ่ O-ring กับ X-ring ต่างกันยังไง?
O-ring /X-ring เป็นการเรียกหน้าตาภาพตัดขวางของยางดังรูป โซ่ที่มาจากโรงงานจะมีสารหล่อลื่นด้านในหมุดมาช่วยลดการสึกหรอ การมี O-ring/ X-ringจะช่วยกักสารหล่อลื่นเอาไว้ข้างในได้นานขึ้น ในขณะที่ตัวโอริงจะต้องสร้างความเสียดทานกับแผ่นประกบให้น้อยที่สุด สังเกตว่า X-ring จะอุดรูได้ดี และมีผิวสัมผัสกับแผ่นประกบน้อยกว่า O-ring ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพดีกว่า