การเลือกคุณภาพผ้าเบรก
เวลาผู้ผลิตทดสอบผ้าเบรก หรือแม่กระทั่งแม่ค้าเองเวลาเลือก จะดูคุณสมบัติหลักๆ 2 อย่าง คือ สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน และอัตราการสึกหรอ ในอุณหภูมิต่างๆ โดยจะมีมาตรฐาน SAE ควบคุม ส่วนมาตรฐานผ้าเบรกที่นิยมในบ้านเราในบ้านเราคือ มอก 97
โดยจะใช้เครื่องทดสอบเบรกหน้าตาเหมือนรูปข้างล่าง ตรวจสอบค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน และอัตราการสึกหรอ ในอุณหภูมิตั้งแต่ 100 C, 150 C, ..., ไปเรื่อยๆถึงกว่า 350 C
หน้าตาตัวอย่างผลทดสอบ [ มอก 97-2557 ]
เมื่อนำมาเทียบกับของแท้เราก็จะสามารถดูได้ว่าผ้าเบรกที่เราเลือกมาใช้งานได้ประมาณไหน
ค่ามาตรฐานแบบนี้หาดูได้ที่ไหน ?
มาตรฐาน SAE J866 และ DOT จะกำหนดสัญลักษณ์บ่งบอก สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่อุณหภูมิต่ำ (0-200F) และสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่อุณหภูมิสูง (200-600F) ของผ้าเบรกไว้ตามตารางด้านล่าง
ผ้าเบรก OEM แทบทุกอันจะมีสัญลักษณ์ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัวติดอยู่เวลาเลือกใช้ผ้าเบรกทดแทนควรเลือกเบอร์ที่มีค่า ใกล้เคียงกับของทีติดรถ หรือถ้าใช้ไม่ตรงก็อาจจะต้องคอยดูและเปลี่ยนตามสภาพ
อันนี้ยกตัวอย่างค่าของมาตรฐาน DOT มาให้ดู
รถใช้ตามท้องถนนมักจะมีสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่อุณหภูมิต่ำ สูง หากใช้ในท้องสนามควรเลือกใช้ผ้าเบรกที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่อุณหภูมิสูง สูง
แต่ผ้าเบรกก็ไม่ใช่ทุกอย่างของระบบเบรก
การเบรกคือการเปลี่ยนพลังงานจลน์ของรถไปเป็นพลังงานความร้อน โดยเบรกจะทำหน้าที่ลดความเร็วของล้อเพื่อให้ล้อสร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนน นอกจากผ้าเบรกแล้ว ระบบเบรกยังมีส่วนประกอบอีกมากมายที่จะมีผลต่อการเบรกขอรถ ตั้งแต่ กระปุกน้ำมันเบรก, น้ำมันเบรก, ลูกสูบคาลิเปอร์เบรก, ล้อ, โช็คหน้า, ฯลฯ