อะไหล่ OEM กับ Aftermarket แตกต่างกันยังไง?
อะไหล่ OEM ( Original Equipment Manufacturer ) คืออะไหล่ที่ติดมากับรถจากโรงงานผู้ผลิตรถนั่นเอง หรือที่เราเรียกกันว่าอะไหล่แท้ ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตที่เดียวกับที่ผลิตรถเลย แต่บางค่ายก็จะจ้างโรงงานข้างนอกผลิต แล้วค่อยนำมาประกอบที่โรงงานอีกทีก็มี
อะไหล่ Aftermarket เป็นอะไหล่ที่ผลิตจากบริษัทอื่นนอกเหนือจากโรงงานผู้ผลิตรถ ซึ่งทำออกมาใช้เทียบอะไหล่ OEM ส่วนใหญ่จะทำมาเพื่อจุดประสงค์หลักๆ 2 อย่าง อย่างแรกคือทำมาให้ถูกกว่าและใช้แทนได้ อย่างที่สองคือทำออกมาเป็นอะไหล่ Performance ที่มีคุณภาพสูงกว่า หรือมีฟังก์ชั่นมากกว่า อะไหล่ OEM
ข้อดี ข้อเสีย ?
เวลาเลือกซื้ออะไหล่ OEM ลูกค้าจะค่อนข้างมั่นใจได้ว่า ซื้อมาแล้วใส่ได้ชัว และมักไม่มีปัญหาเรื่องการผิดสเปค หรือต้องดัดแปลงอะไรก่อนใส่ แต่ข้อเสียก็คืออะไหล่ OEM จะมีราคาสูง และไม่ได้ช่วยเรื่อง Performance มากนัก เปลี่ยนแล้วก็เหมือนๆเดิม
ส่วนอะไหล่ Aftermarket จะมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลายกว่า แต่บางทีอาจต้องมีการปรับหรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ อะไหล่ทดแทนมีทั้งที่เป็นอะไหล่เน้นด้านการพัฒนา Performance รถ และมีทั้งที่ทำออกมาเพื่อเฉือนราคาตลาดเหมือนกัน เรื่องคุณภาพอาจมั่นใจไม่ได้เต็มร้อยเท่ากับอะไหล่ OEM
เมื่อไหร่ที่ควรใช้อะไหล่ OEM ?
ลูกค้าควรเลือกซื้ออะไหล่ OEM เมื่อเปลี่ยนส่วนที่ต้องการการทำงานที่แม่นยำ และเปลี่ยนยาก เช่น
- ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
- ปะเก็น
- ซีลยางในห้องเครื่่อง
- แบริ่ง
- ปั๊ม
- ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
เมื่อไหร่ที่เราควรเลือกอะไหล่ Aftermarket?
อะไหล่ Aftermarket เหมาะสำหรับใช้อัพเกรดเครื่องยนต์ หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เปลี่ยนง่ายไม่ยุ่งยากหรือใช้ในงาน maintainance ทั่วไป เช่น ผ้าเบรก โซ่ สเตอร์ กรองเครื่อง ฯลฯ เนื่องจากเราสามารถหาอะไหล่ Aftermarket ที่ราคาถูกกว่าของศูนย์ โดยยังคงคุณภาพเทียบเท่าศูนย์อยู่ได้ไม่ยาก ชิ้นส่วนอะไหล่ที่นิยมใช้เป็นอะไหล่ Aftermarket เช่น
- โซ่ สเตอร์
- ท่อ
- คันเร่ง
- ที่พักเท้า
- เบาะ
- ยาง
- ผ้าเบรก
- ไส้กรอง
- หัวเทียน
สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าเรามองหาฟังก์ชั่นอะไรจากอะไหล่แต่ละตัวแล้วก็เลือกซื้อให้ตรงจุดประสงค์ก็พอค่ะ
ติดตามบทความ หรือสอบถามอะไหล่ราคา ปลีก - ส่ง ได้ที่