เจาะลึก เรื่องเบอร์ความร้อนหัวเทียน

เจาะลึก เรื่องเบอร์ความร้อนหัวเทียน

สำหรับผู้ที่ต้องการทำความรู้จักส่วนประกอบและการอ่านเบอร์หัวเทียนให้อ่านบทความนี้ก่อนค่ะ

เบอร์ความร้อนหััวเทียน

บ่งบอกถึงความเร็วที่หัวเทียนระบายความร้อนออกจากปลายเขี้ยวจุดระเบิด ผ่านปลายล่างฉนวนขึ้นมาตามฉนวนไปที่ฝาสูบ เพื่อระบายความร้อนสู่น้ำหรืออากาศ
เจาะลึก เรื่องเบอร์ความร้อนหัวเทียนหัวเทียนเรียกหัวเทียนเย็นกับหัวเทียนร้อนต่างกันที่ ความยาวของปลายล่างฉนวน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผลต่อการระบายความร้อนมากที่สุด

เจาะลึก เรื่องเบอร์ความร้อนหัวเทียน
โดย หัวเทียนร้อน (เบอร์ต่ำ) จะมีปลายล่างฉนวนยาว ทำให้มีพื้นที่หน้าสัมผัสแก๊สที่เผาไหม้มาก และถ่ายเทความร้อนออกจากห้องเครื่องช้า
ในขณะที่หัวเทียนเย็น (เบอร์สูง) จะมีปลายล่างฉนวนสั้น ทำให้พื้นที่หน้าสัมผัสแก๊สที่เผาไหม้น้อย และถ่ายเทความร้อนออกจากห้องเครื่องได้เร็ว

เบอร์ความร้อนหัวเทียนควรเลือกให้ถูกต้อง เพราะจะมีผลต่ออุณหภูมิบริเวณปลายเขี้ยวหัวเทียน โดยอุณหภูมิปลายเขี้ยวหัวเทียนที่ผู้ผลิตแนะนำ จะอยู่ที่ 450-850 องศาเซลเซียส

เจาะลึก เรื่องเบอร์ความร้อนหัวเทียน
ในกรณีที่เบอร์หัวเทียนเย็นเกินไป (ค่าสูงเกินไป) จะทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทำให้มีเขม่าสะสมที่ปลายล่างของหัวเทียน เขม่าเหล่านี้ถ้าเยอะเกินไปจะทำให้หัวเทียนไม่ลงกราวด์ที่เขี้ยว และลดทอนการเกิดประกายไฟ [CARBON-FOULING RANGE]

ในกรณีที่เบอร์หัวเทียนร้อนเกินไป (ค่าต่ำไป) จะทำให้เครื่องยนต์ชิงจุดระเบิดก่อนได้ ทำให้เสียกำลังเครื่องยนต์ และอาจทำให้เกิดอาการเขี้ยวละลายจนเกิดปัญหาลูกสูบทะลุได้ในกรณีที่ร้อนมากๆ [SURFACE IGNITION RANGE]

เบอร์หัวเทียนที่บ่งบอกค่าความร้อนหัวเทียนแต่ละค่ายไม่เท่ากันตามตารางด้านล่าง

เบอร์หัวเทียนที่บ่งบอกค่าความร้อนหัวเทียนแต่ละค่ายไม่เท่ากัน

หากต้องการปรับค่าความร้อนหัวเทียน

วิธีคิดนึงที่ใช้ได้คือให้ปรับค่าความร้อนเย็นขึ้น 1 เบอร์สำหรับแรงม้าเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นทุก 75 - 100 แรงม้า อีกทฤษฎีบอกว่าค่าความร้อนค่านึงเทียบได้กับการระบายความร้อน 70 - 100 องศาเซลเซียสออกจากห้องเผาไหม้

หัวเทียนแต่ละแบบเหมาะกับเครื่องยนต์แบบไหน

เบื้องต้นหัวเทียนเย็น (เบอร์สูง) จะเหมาะกับเครื่องยนต์ที่ทำงานในรอบเครื่องยนต์ และความร้อนสูง ในทางกลับกันหัวเทียนร้อน (เบอร์ต่ำ) จะเหมาะกับเครื่องยนต์ที่ทำงานในรอบเครื่องยนต์ต่ำ

Supercharging/ Turbocharging
สำหรับเครื่องยนต์ติด Supercharge หรือ Turbocharge ที่อากาศเข้ามากกว่าปกติ จะมีแรงดัน  และความร้อนส่วนผสมห้องเผาไหม้สูงกว่าปกติ ต้องใช้หัวเทียนที่มีเบอร์ความร้อนสูงกว่าปกติ

Nitrous Oxide
เครื่องยนต์ติด Nitrous Oxide อุณหภูมิเสื้อสูบจะสูงกว่าเครื่องยนต์ทั่วไปมาก จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูงกว่าปกติ

Methanol
Methanol เครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของ Methanol จะมีค่า Octane สูงกว่า Gasoline ปกติ และเผาไหม้ได้หมดจดกว่าที่อุณหภูมิที่สูงกว่า จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูงกว่าปกติเพื่อระบายความร้อนออกจากห้องเผาไหม้เร็วขึ้น

Increased Compression Ratio
เครื่องยนต์ที่มีการดัดแปลงเพิ่มกำลังอัดมา แปลว่าความดันและอุณหภูมิห้องเผาไหม้สูงกว่าปกติ จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูงกว่าปกติ

Air/Fuel Mixture Modification
เครื่องยนต์ที่มีการจูนปรับอัตราส่วนผสมน้ำมันต่ออากาศ (Air/Fuel) มา กรณีปรับส่วนผสมให้บางลงจะทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ และอุณหภูมิที่ปลายเขี้ยวสูงขึ้น อาจทำให้เกิดอาการ Engine Knock หรือชิงจุดระเบิดก่อนได้ จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูงกว่าปกติ
กรณีปรับส่วนผสมให้หนาขึ้นจะเกิดผลตรงข้าม ทำให้อุณหภูมิที่ปลายเขี้ยวลดลง อาจทำให้เกิดคราบคาร์บอนที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์บริเวณปลายเขี้ยวหัวเทียนได้ กรณีนี้ให้ปรับมาใช้เบอร์หัวเทียนร้อนขึ้น

Advanced ignition timing
เครื่องยนต์ที่มีการจูนให้ไฟแก่ หรือจุดระเบิดเร็วขึ้น จะทำให้อุณหภูมิการเผาไหม้ที่ปลายหัวเทียนสูงขึ้น NGK ประมาณอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตั้งองศาจุดระเบิดเร็วขึ้น 10องศาว่าอุณหภูมิห้องเผาไหม้จะร้อนขึ้น 70-100 องศา เพื่ิิอป้องกันอาการเครื่อง Engine Knock จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูงกว่าปกติ

Prolonged Acceleration/ High Speed Driving
กรณีการใช้งานเครื่องยนต์โดยขับความเร็วสูงเป็นระยะยาว เครื่องยนต์ที่ทำงานในรอบสูงเป็นระยะยาวจะทำให้อุณหภูมิห้องเผาไหม้สูงขึ้น จำเป็นต้องใช้หัวเทียนค่าความร้อนสูง

เลือกชมสินค้าหัวเทียนมอเตอร์ไซค์
เลือกชมสินค้าหัวเทียนรถยนต์
ไม่พลาดบทความจากเราคลิก
เพิ่มเพื่อน